7 พฤติกรรมแย่ๆ ที่จะทำให้การออกกำลังกายไม่สำเร็จ

เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยมีประสบการณ์ในการออกกำลังกายอย่างหนัก ไดเอทแบบเอาจริงเอาจัง แต่ออกกำลังกายไม่สำเร็จ สัดส่วนและน้ำหนักที่มีอยู่แทบไม่ลดไปสักนิดเดียว แถมยังพาให้ปวดเมื่อยเจ็บร้าวเนื้อตัวไปหมด เผลอ ๆ ตัวก็ยังบวม น้ำหนักก็ยังเพิ่มอยู่ร่ำไป อีกทั้งยังรู้สึกอ่อนเพลียไม่สดใสเหมือนอย่างเคย ภาวะจิตใจก็ย่ำแย่ตามไปด้วยเพราะไม่สามารถทำตามเป้าหมายได้

แต่อย่าเพิ่งถอดใจไปนะคะ เพราะวันนี้เราจะพาทุกคนมาเช็กลิสต์กับพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้การออกกำลังกาย หรือการไดเอทของคุณล้มเหลวกันค่ะ พร้อมแล้วก็ตามมาอ่านกันได้เลยค่ะ 

ออกกำลังกายไม่สำเร็จ เพราะยังไม่มากพอ

แน่นอนว่าถ้าคุณไม่ได้ออกกำลังกายมานาน ๆ เมื่อกลับมาออกกำลังกายอีกครั้งคุณจะเหนื่อยง่ายกว่าปกติ และทำให้รู้สึกท้อจนไม่อยากจะออกแรงเพื่อให้ร่างกายขยับแต่อย่างใด ทำให้ต้องล้มเลิกการออกกำลังกายครั้งนั้น ๆ ไปอย่างน่าเสียดาย หรือบางครั้งก็รู้สึกว่าที่ออกกำลังกายติดต่อกันมานานหลายนาทีนั้นเพียงพอต่อการเผาผลาญแคลอรี่ที่ได้รับมาตลอดวันแล้ว

หรือแม้แต่พอเจอท่าในการออกกำลังกายที่ยากกว่าปกติ แถมมีเซ็ทหลายเซ็ทจนร่างกายออกกำลังเพิ่มไม่ไหว คุณก็ดันไปลดจำนวนครั้งลงจนร่างกายยังไม่ทันพลังงาน จึงทำให้การออกกำลังกายของคุณไม่เห็นผลนั่นเอง ฉะนั้นต่อให้เจอท่ายาก ๆ หรือจำนวนเซ็ทที่มาก เราขอแนะนำว่าให้ลองฝืนใจฝืนร่างกายอีกสักหน่อย ให้พ้นครึ่งเซ็ทก็ยังดีค่ะ 

ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป

เพราะชีวิตไม่มีความพอดี…ออกกำลังกายน้อยไปก็ไม่เห็นผล หรือต่อให้ออกกำลังหายหนักมากเกินไปก็ไม่เห็นผลเช่นกัน เนื่องจากการออกกำลังกายที่หักโหมมากเกินไปนั้นอาจส่งผลเสียต่อกล้ามเนื้อและร่างกายได้ อีกทั้งยังทำให้ร่างกายของคุณเหนื่อล้าอ่อนเพลียมากเกินไป หรือในบางรายที่กดดันตัวเองให้ออกกำลังกายแบบหักโหมนั้นก็อาจทำให้เกิดภาวะเครียดและวิตกกังวลจนทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนความเครียดหรือคอร์ติซอลออกมาผิดปกติ และส่งผลให้ระบบการทำงานของร่างกายรวนกว่าเดิมได้ เช่น การเผาผลาญมวลกล้ามเนื้อลดลง อยากอาหารหวานมากขึ้น  

ออกกำลังกายแบบเดิมซ้ำ ๆ

หากคุณออกกำลังกายมากสักระยะ คุณก็อาจจะคุ้นเคยและสนุกกับการออกกำลังกายแบบนั้น ๆ ไปแล้ว เช่น คาร์ดิโอทุกวัน วิ่งทุกเช้า แอโรบิกทุกเย็น แต่เคยสังเกตตัวไหม? ว่าในช่วงแรกน้ำหนักและสัดส่วนลดลงจริง แถมผิวเฟิร์มกระชับอย่างที่ต้องการ แต่ทำไมนานวันเข้าทุกอย่างกับเป็นปกติ น้ำหนักไม่ลง สัดส่วนไม่ลดแม้แต่น้อย ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่ากล้ามเนื้อที่เราใช้อยู่ประจำนั้นได้จดจำการออกกำลังกายรูปแบบนั้น ๆ ไปแล้วนั่นเองค่ะ ว่าคุณใช้แรงในการออกกำลังกายเท่าเดิม พลังงานเท่าเดิม 

ฉะนั้นถ้าอยากให้การออกกำลังกายที่คุณยึดถือปฏิบัติมาเป็นเวลานานเห็นผลได้รวดเร็วและชัดเจนมากยิ่งขึ้น เราก็ขอแนะนำว่าให้ลองปรับเปลี่ยนรูปแบบการออกกำลังกายที่เคยทำอยู่ซะใหม่ เช่น จากที่เคยเต้นแอโรบิคเพลงเดิม ๆ อยู่ทุกวัน ก็ลองเปลี่ยนเพลงที่นานขึ้น เปลี่ยนท่าให้แอดวานซ์กว่าเดิม เพื่อให้ร่างกายได้ออกแรงและเผาผลาญมากกว่าเดิม อีกทั้งขอแนะนำว่าให้ออกกำลังกายด้วยการเวทเทรนนิ่งควบคู่ไปด้วยจะทำให้การเผาผลาญพลังงานของร่างกายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ

อ่านเพิ่มเติม : แนะนำ 8 แอปออกกำลังกาย สำหรับคนรักสุขภาพ ทั้งสายวิ่ง สายยิม และ Home Fitness

ออกกำลังกายผิดวิธี

ปัจจุบันผู้คนมักหันมาใส่ใจสุขภาพและออกกำลังกายที่บ้านหรือในที่พักอาศัยกันมากขึ้น โดยอาจจะเปิด Youtube Tiktok แล้วออกกำลังกายตาม หรือเลือกใช้แอปฯ ในสมาร์ทโฟนต่าง ๆ แล้วเซ็ทตารางการออกกำลังกายของตัวเองไว้ ซึ่งคลิปไหนว่าดี แอปฯ ไหนว่าเด็ดก็รีบดูรีบโหลดแล้วรีบทำตามกันแบบรัว ๆ เพราะหวังว่าจะเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงของร่างกายตามเขาบ้าง แต่รู้หรือไม่? ว่าถ้าคุณออกกำลังกายไปแบบไร้หลักการและความเข้าใจที่ถูกต้อง อาจทำให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บและการออกกำลังกายนั้นไม่เห็นผลก็เป็นไปได้ค่ะดังนั้นแล้ว ก่อนวางแผนออกกำลังกายเอง เราขอแนะนำให้ลองศึกษาวิธีการออกกำลังกายเหล่านั้นให้ชัดเจนและเข้าใจอย่างถ่องแท้ ทั้งท่าทาง การใช้อุปกรณ์ รวมไปถึงการหายใจขณะออกกำลังกาย   

ทานอาหารมากเกินไป

หากคุณออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอถูกต้องถูกวิธี แต่ดันขาดการควบคุมการรับประทานอาหารแล้วล่ะก็ ขอบอกเลยว่ามีแต่พังกับพังอย่างแน่นอนค่ะ! ซึ่งในบางครั้งคุณก็อาจจะเผลอใจเผลอปากไปกับอาหารสุดแสนอร่อยที่ยั่วน้ำลายตรงหน้าได้ แถมบางครั้งก็ให้รางวัลตัวเองเป็น Cheat Day บ่อยเสียจนแคลอรี่ น้ำตาล ไขมันเพิ่มขึ้นแบบฉุดไม่อยู่ ฉะนั้นถ้าอยากให้การออกกำลังกายได้ผลมากขึ้น แนะนำควบคุมอาหารโดยเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดแป้ง ลดน้ำตาล เลี่ยงอาหารไขมันสูงจะดีที่สุดค่ะ 

ทานอาหารไม่เพียงพอต่อการเผาผลาญ

นอกจากจะทานอาหารมากเกินไปจะทำให้การออกกำลังกายไม่ได้ผลแล้ว การอดอาหาร หรือทานอาหารไม่เพียงพอต่อการเผาผลาญนั้นก็มีสิทธิ์ทำให้การออกกำลังกายของคุณนั้นล้มเหลวเช่นกัน เนื่องจากการอดอาหารนั้นส่งผลเสียต่อระบบเผาผลาญของร่างกาย ทำให้สลายไขมันหรือลดน้ำหนักได้ยากมากขึ้น เผลอ ๆ แทนที่จะได้ลดไขมัน กลับเพิ่มปริมาณไขมันสะสมทั่วร่างกายไปอีกค่ะ ฉะนั้นแล้วอยากให้การไดเอทเห็นผล ต้องทานอาหารให้เพียงพอควบคู่ไปกับการออกกำลังกายที่เหมาะสมนะคะ

อ่านเพิ่มเติม : อาหารที่ควรทาน ทั้งก่อนออกกำลังกาย และหลังออกกำลังกาย รับรองเฟิร์ม!

พักผ่อนไม่เพียงพอ

การนอน หรือการให้ร่างกายได้พักผ่อนถือเป็นกุญแจสำคัญในการออกกำลังกายเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อไหร่ที่ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่เซลล์ต่าง ๆ ก็ได้ฟื้นตัวและได้รับการซ่อมแซมไปพร้อม ๆ กัน ทำให้ร่างกายของเราแข็งแรง และรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่ามีแรงออกกำลังกายมากขึ้น แต่ถ้าหากคุณอดนอน พักผ่อนไม่เพียงพอ ก็เตรียมใจไว้ได้เลยว่าคุณจะรู้สึกอ่อนเพลีย หมดแรงออกกำลังกาย แถมเผลอ ๆ ยังมีความรู้สึกอยากอาหารมากกว่าเดิมอีกด้วยค่ะ

อ่านดูแล้ว มีข้อตรงไหนกับพฤติกรรมที่คุณกำลังทำอยู่บ้างไหมคะ? ถ้ารู้ตัวแล้ว ก็ขอให้รีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนั้น ๆ โดยด่วนเลยนะคะ เพื่อที่ว่าจะได้กลับมาออกกำลังกาย หรือไดเอทอย่างถูกต้องถูกวิธีอีกครั้ง และได้สัมผัสกับสัดส่วน หรือน้ำหนักของร่างกายที่ลดลงตามเป้าหมายที่ได้วางแผนเอาไว้ค่ะ