
10 อันดับนํ้าหอมชายที่ใช้งานง่าย ใส่ทำงานก็ได้ ไปเที่ยวก็ดี (อัพเดต 2024)
หากพูดถึง น้ำหอม หลายๆ คนอาจมีภาพจำว่าเป็นของใช้ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้หญิงเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว น้ำหอมสำหรับผู้ชาย ก็เป็นที่นิยมเช่นเดียวกัน เพราะกลิ่นอันโดดเด่นและแตกต่างของน้ำหอมแต่ละขวดจะช่วยเสริมบุคลิก เพิ่มเสน่ห์ และสร้างคาแรคเตอร์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะคนให้กับเหล่าคุณผู้ชายได้เป็นอย่างดี ในปัจจุบันมีน้ำหอมผู้ชายให้เลือกใช้หลากหลายแบรนด์ แต่ละขวดก็มีกลิ่นที่ไม่เหมือนกัน และเหมาะกับการใช้ในโอกาสที่แตกต่างกันออกไป สำหรับคุณผู้ชายท่านไหนที่กำลังเลือกน้ำหอมสำหรับผู้ชาย แต่ยังคิดไม่ตกว่าควรเลือกกลิ่นไหนดี มาดู 10 อันดับนํ้าหอมยอดนิยมสำหรับผู้ชาย ฉบับอัพเดท 2022 ที่รับรองว่าใช้งานง่าย ใส่ไปเที่ยวก็ได้ ไปทำงานก็ดี
1. น้ำหอมผู้ชาย Dior Sauvage (EDT)
น้ำหอมขวดดังจาก Dior ที่มีพรีเซนเตอร์ชื่อดังอย่าง Johnny Depp ที่รับรองได้เลยว่าไม่ได้มีดีแค่พรีเซนเตอร์เท่านั้น แต่กลิ่นก็เข้มข้น ดุเดือด เสริมความเป็นชายได้สมชื่อเช่นเดียวกัน เปิดกลิ่นหอมเข้มมาด้วยกลิ่นโทนมะกรูดและเครื่องเทศ ส่งความหอมเย้ายวนใจ เพิ่มมิติความน่าค้นหาด้วยกลิ่นลาเวนเดอร์ และปิดท้ายด้วยความหวานของวานิลลา ที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์ เสริมบุคลิกความเป็นคนอบอุ่น สุขุมได้เป็นอย่างดี
- ยี่ห้อ : Dior
- รุ่น : Sauvage (EDT)
- ราคา : 3,000 (100 ml.)
- ประเภท : EDT
- Notes : Bergamot/ Mandarin/Sichuan Pepper/ Lavender/ Vanilla
- ระยะเวลาติดทน : 8-10 ชั่วโมง
2.น้ำหอมผู้ชาย Chanel Bleu de Chanel (EDP)
หากพูดถึงน้ำหอมผู้ชายกลิ่นยอดฮิต คงจะขาดน้ำหอมจากแบรนด์ Chanel ขวดนี้ไปไม่ได้อย่างแน่นอน เป็นน้ำหอมที่ฉีดแล้วจะช่วยให้คุณดูเป็นชายผู้สุขุมนุ่มลึก แต่ขณะเดียวกันกลิ่นก็ไม่แน่นจนปวดหัว เพราะเปิดท็อปของกลิ่นมาด้วยแนวซีตรัส กลิ่นสดใสสบายจมูก ตามมาด้วยกลิ่นแสนอบอุ่นของวู้ดดี้ และปิดด้วยความแน่นของโทนพัดชูลี ไวท์มัสก์ และยางไม้ลับดานุม ที่เสริมให้กลิ่นติดทนนานตลอดวัน
- ยี่ห้อ : Chanel
- รุ่น : Bleu de Chanel
- ราคา : 5,700 บาท (100 ml.)
- ประเภท : EDP
- Notes : Citrus / Balsamic / Fresh Spicy / Woody / Amber
- ระยะเวลาติดทน : 10-12 ชั่วโมง
3.น้ำหอมผู้ชาย Chanel Allure Homme Sport
เป็นน้ำหอมสำหรับผู้ชาย จากแบรนด์ Chanel ที่ไม่ว่าจะปีไหนๆ ก็ขายดีและได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ด้วยเพราะความเป็นน้ำหอมสาย Sport ที่ให้กลิ่นไม่แน่น ไม่ฉุน ฉีดได้ทุกสภาพอากาศ เหมาะกับทุกโอกาส ทั้งวันทำงาน หรือจะเที่ยวเล่นสบายๆ เปิดกลิ่นมาด้วยความสดชื่นของโทนซีตรัสจากส้มแมนดาริน และน้ำทะเล ตามติดด้วยกลิ่นเครื่องเทศ และจบโน้ตด้วยความอบอุ่นของไวท์มักส์ วานิลลา ที่ดูอบอุ่น และสุขุมสุดๆ
- ยี่ห้อ : Chanel
- รุ่น : Allure Homme Sport
- ราคา : 4,350 บาท (100 ml.)
- ประเภท : EDT
- Notes : Mandarin orange / Pepper / Cedar / Amber / Musk / Vanilla / Veive
- ระยะเวลาติดทน : 6-7 ชั่วโมง
4. น้ำหอมผู้ชาย Bvgari Aqua Pour Homme
คุณผู้ชายคนไหนที่กำลังมองหาน้ำหอมกลิ่นสะอาดๆ เฟรช สดใส ละม้ายคล้ายกับความสดชื่นของผืนทะเลต้องชอบขวดนี้จากแบรนด์ Bvlgari อย่างแน่นอน เปิดมาด้วยกลิ่นอันแสนสดใส ของซีตรัสอย่างส้ม เคล้าด้วยกลิ่นอายความเป็นทะเลด้วยกลิ่นสาหร่ายทะเล ตัดความสดชื่นด้วยกลิ่นจากดอกลาเวนเดอร์และดอกฝ้าย ตบท้ายความหอมละมุนของกลิ่นจากโทนวู้ดดี้เคล้าวานิลลา นับเป็นน้ำหอมที่ผสมผสานระหว่างความสดชื่นและความสุขุมได้อย่างลงตัว
- ยี่ห้อ : Bvgari
- รุ่น : Aqua Pour Homme
- ราคา : 4,450 บาท (100 ml.)
- ประเภท : EDT
- Notes : Mandarin orange / Orange Petitgrain / Cedar / Woodsy / Amber
- ระยะเวลาติดทน : 6-7 ชั่วโมง
5. น้ำหอมผู้ชาย Creed Aventus by Creed
น้ำหอมสำหรับผู้ชายที่มีกลิ่นหอมแน่นฉีดแล้วทำให้ดูสุขุม และทรงพลัง เปิดกลิ่นมาอย่างเข้มข้นด้วยกลิ่นจากมะกรูด ผสานความสดชื่นอย่างลงตัวจากสับปะรด แบล็กเคอร์แรน และแอปเปิ้ล ปิดท้ายด้วยกลิ่นอันหนักแน่นจากมัสก์ และโอ๊กมอสส์ ที่สำคัญยังเป็นน้ำหอมที่ได้รับความนิยมเฉพาะกลุ่มเท่านั้น ฉีดแล้วไม่ซ้ำใครแน่นอน
- ยี่ห้อ : Creed
- รุ่น : Aventus by Creed
- ราคา : 12,000 บาท (100 ml.)
- ประเภท : EDP
- Notes : Pineapple/ Bergamot / Black Currant / Apple / Patchouli / Rose / Musk / oak Moss / Vanilla
- ระยะเวลาติดทน : 10-12 ชั่วโมง
6. น้ำหอมผู้ชาย Davidoff Cool Water EDT
เป็นน้ำหอมกลิ่นหอมเย็นสดชื่น เมื่อฉีดแล้วจะทำให้รู้สึกถึงความสะอาด สดชื่น ดูเป็นสายสปอร์ต ออกกำลังกายนิดๆ รักสุขภาพหน่อยๆ เปิดกลิ่นด้วยความเย็นสดชื่นของน้ำทะเล และกลิ่นดอกไม้ ปิดท้ายกลิ่นด้วยความเข้ม สุขุมอย่างมักส์ โอ๊กมอสส์ และซีดาร์ ใช้ฉีดได้หลากหลายโอกาส ทั้งทำงาน หรือไปเที่ยวในวันสบายๆ
- ยี่ห้อ : Davidoff
- รุ่น : Cool Water
- ราคา : 2,640 บาท (75 ml.)
- ประเภท : EDT
- Notes : Sea water/ Lavender/ Green Notess/ Sandalwood / Geranium / Musk / Tobacco/ Oakmoss / Cedar
- ระยะเวลาติดทน : 6-8 ชั่วโมง
7. น้ำหอมผู้ชาย Versace Eros EDT
น้ำหอมผู้ชายยอดนิยมจากแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Versace อย่าง Eros เป็นอีกขวดที่ฮิตไม่เลิกราเช่นเดียวกัน ด้วยกลิ่นโทนสดชื่นอย่างมินท์ เลม่อน และแอปเปิล ไม่แน่นจนเวียนหัว ใช้ได้กับทุกๆ โอกาส แต่ความสดชื่นนี้กลับแฝงด้วยความสุขุม และทรงพลังในโน้ตท้ายๆ อย่างวานิลลา และโอ๊กมอสส์ ได้อย่างลงตัว รับรองว่าฉีดแล้วใครๆ ก็ต้องเหลียวมองแน่นอน
- ยี่ห้อ : Versace
- รุ่น : Eros
- ราคา : 4,000 บาท (100 ml.)
- ประเภท : EDT
- Notes : Mint / Italian lemon / Apple / Venezuelan tonka bean / Bourbon vanilla / Oakmoss
- ระยะเวลาติดทน : 6-8 ชั่วโมง
8. น้ำหอมผู้ชาย Y YSL (Yves Saint Laurent)
น้ำหอมโทนกลิ่นลึกลับ เสริมเสน่ห์ เพิ่มความน่าค้นหาให้กับคุณผู้ชาย ด้วยโทนกลิ่นอะโรมาติก (Aromatic) ตีคู่กันมากับกลิ่นแนวซีตรัส ที่ช่วยเพิ่มความสดชื่น ใสสบาย เข้ามาได้อย่างลงตัว ปิดท้ายด้วยกลิ่นที่หอมนุ่ม สุขุมอย่างแอมเบอร์วู้ด และตองก้าบีน

- ยี่ห้อ : YSL
- รุ่น : YSL
- ราคา : 5,300 บาท (100 ml.)
- ประเภท : EDP
- Notes : Apple / Ginger / Bergamot / Juniper Berries / Geranium; /Amberwood /Tonka Bean / Cedar
- ระยะเวลาติดทน : 6-8 ชั่วโมง
9.น้ำหอมผู้ชาย Coach For Men
น้ำหอมที่มาในกลิ่นโทนหรูหรา เสริมความสุขุม ดูดี เปิดกลิ่นมาด้วยความหนักแน่นของกลิ่นลูกแพร์ และมะกรูด ตามมาด้วยกลิ่นหอมนุ่มของ Suede, Amberwood และ Haitian Vetiver
- ยี่ห้อ : Coach
- รุ่น : Coach For Men
- ราคา : 4,250 บาท (100 ml.)
- ประเภท : EDT
- Notes : green nashi pear / bergamot / kumquat / cardamom / geranium / vetiver Haiti / LMR / suede
- ระยะเวลาติดทน : 6-8 ชั่วโมง
10. น้ำหอมผู้ชาย Calvin Klein Eternity for Men
เป็นน้ำหอมผู้ชาย กลิ่นสบายจมูก สะอาด และสดใส สามารถหยิบมาใช้ได้ทุกวัน ทุกสถานการณ์ เปิดกลิ่นมาด้วยความหอมสดชื่นโทนซีตรัสจากส้มแมนดาริน และดอกลาเวนเดอร์ ตามด้วยกลิ่นอันอบอุ่นของเครื่องเทศ แต่ซ่อนความหอมละมุนของดอกไม้ ปิดด้วยกลิ่นโทนเข้ม ผสมความอบอุ่นได้อย่างลงตัว
- ยี่ห้อ : Calvin Klein
- รุ่น : Eternity for Men
- ราคา : 3,200 บาท (50 ml.)
- ประเภท : EDT
- Notes : Mandarin / Lavender / Green Botanics / Jasmine / Basil / Sandalwood / Rosewood / Amber
- ระยะเวลาติดทน : 6-8 ชั่วโมง
และนี่ก็เป็น 10 อันดับน้ำหอมผู้ชาย ที่หยิบใช้ได้ตลอดทุกวัน จะฉีดเมื่อไหร่ วันไหนก็สร้างกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ เสริมเสน่ห์และสร้างคาแรคเตอร์ให้กับเหล่าคุณผู้ชายได้เป็นอย่างดี การเลือกน้ำหอมเพื่อให้ฉีดได้ทุกโอกาส มีหลักสำคัญคือเน้นน้ำหอมที่เป็นโทนสะอาด สบายจมูก โน้ตกลิ่นไม่แน่นจนทำให้ตัวผู้ฉีดหรือคนรอบข้างรู้สึกฉุน หรือเวียนหัว ใช้จำนวนสเปรย์ที่พอเหมาะ ฉีดลงในจุดสำคัญอย่างบริเวณคอทั้ง 2 ข้าง หน้าอก และข้อมือ ก็จะช่วยให้กลิ่นกระจายตัวได้ดี จะเดินไปที่ไหนใครๆ ก็ได้กลิ่นหอมอย่างแน่นอนและหากใครกำลังมองหาของขวัญสำหรับมอบให้เพื่อนร่วมงานอยู่ด้วย สามารถอ่านบทความนี้ต่อได้เลย12 ไอเดีย ของขวัญปีใหม่ให้หัวหน้า ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ปี 2024